Supercritical Fluid Extraction ในการสกัดน้ำมันหอมระเหย
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรและพืชหอมต่างๆ เป็นกระบวนการที่สำคัญในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ยา และอาหาร โดยในอดีตมีการใช้วิธีการสกัดที่ใช้ตัวทำละลาย เช่น เอทานอล หรือน้ำมันพืช แต่ในปัจจุบันมีการนำเทคนิค Supercritical Fluid Extraction (SFE) หรือ การสกัดด้วยของเหลวซุปเปอร์คริติคอล มาใช้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถสกัดน้ำมันหอมระเหยได้ในปริมาณสูงและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดี
หลักการของ Supercritical Fluid Extraction (SFE)
Supercritical Fluid Extraction (SFE) คือการใช้ของเหลวในสภาวะที่มีอุณหภูมิและความดันสูงจนกระทั่งของเหลวนั้นอยู่ในสถานะที่เรียกว่า supercritical state ซึ่งของเหลวในสถานะนี้มีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้มันสามารถละลายสารต่างๆ ได้ดีในลักษณะที่เหมือนกับของเหลวและการเคลื่อนที่ที่เหมือนกับก๊าซ ซึ่งทำให้มันมีประสิทธิภาพในการสกัดสารได้ดีมาก
โดยปกติแล้ว คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) จะเป็นของเหลวที่ใช้ในกระบวนการนี้ เพราะ CO₂ มีจุดวิกฤติ (critical point) ที่ไม่สูงมาก จึงสามารถใช้ได้ในอุณหภูมิและความดันที่ไม่สูงเกินไป ทำให้เหมาะสำหรับการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืช
การสกัดน้ำมันหอมระเหยด้วย SFE
กระบวนการสกัดน้ำมันหอมระเหยด้วย SFE จะใช้ CO₂ หรือของเหลวซุปเปอร์คริติคอลอื่นๆ ผ่านการปรับอุณหภูมิและความดันให้สูงกว่า จุดวิกฤติ ซึ่งทำให้ CO₂ สามารถทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายที่มีประสิทธิภาพสูงในการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากพืช
- อุณหภูมิสูง: ช่วยเพิ่มความสามารถในการละลายสารใน SCF และช่วยลดความหนืดของน้ำมันหอมระเหย
- ความดันสูง: ทำให้ SCF อยู่ในสถานะที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในวัสดุพืชและละลายน้ำมันหอมระเหยได้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีของการใช้ SFE ในการสกัดน้ำมันหอมระเหย
- คุณภาพที่ดีขึ้น: การใช้ CO₂ ในสภาวะซุปเปอร์คริติคอลไม่ทำให้เกิดการทำลายสารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพและกลิ่นหอมตามธรรมชาติ
- ไม่มีสารเคมีตกค้าง: การสกัดด้วย SCF ไม่ต้องใช้สารเคมีตัวทำละลายที่อาจตกค้างในผลิตภัณฑ์ จึงทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อผู้ใช้
- การสกัดที่มีประสิทธิภาพสูง: กระบวนการนี้สามารถสกัดน้ำมันหอมระเหยได้ในปริมาณสูงและรวดเร็วเมื่อเทียบกับวิธีการสกัดแบบดั้งเดิม
- การคัดเลือกสารที่ต้องการ: การปรับอุณหภูมิและความดันให้เหมาะสมทำให้สามารถเลือกสกัดสารสำคัญได้เฉพาะเจาะจงตามความต้องการ
การประยุกต์ใช้ Supercritical Fluid Extraction ในการสกัดน้ำมันหอมระเหย
การใช้ SFE ในการสกัดน้ำมันหอมระเหยได้ถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น:
- อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง: น้ำมันหอมระเหยที่สกัดด้วย SFE มีคุณสมบัติที่ดีในการช่วยปรับสมดุลผิว ช่วยบำรุงผิว และลดริ้วรอย
- อุตสาหกรรมอาหาร: ใช้ในการผลิตน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรเพื่อให้กลิ่นหอมในผลิตภัณฑ์อาหารหรือเครื่องดื่ม
- อุตสาหกรรมยา: น้ำมันหอมระเหยที่สกัดด้วย SFE มักถูกนำมาใช้ในการผลิตยาสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ข้อจำกัดและความท้าทาย
- ต้นทุนสูง: อุปกรณ์และกระบวนการสกัดด้วย SCF มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวิธีการสกัดแบบดั้งเดิม
- การควบคุมกระบวนการ: การควบคุมอุณหภูมิและความดันในกระบวนการ SFE ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความละเอียดอ่อนในการปรับแต่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ความเหมาะสมของพืช: ไม่ทุกรูปแบบของพืชเหมาะสมกับการสกัดด้วย SCF เนื่องจากลักษณะและความหนาแน่นของสารที่ต้องการสกัดอาจแตกต่างกัน
สรุป
การใช้ Supercritical Fluid Extraction (SFE) ในการสกัดน้ำมันหอมระเหยเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงในการสกัดสารสำคัญจากพืชโดยไม่ทำลายคุณภาพของสารหอมธรรมชาติ กระบวนการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง แต่ยังปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้ แม้ว่าจะมีต้นทุนสูงและข้อจำกัดบางประการ แต่ด้วยประโยชน์ที่ได้รับและความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพของน้ำมันหอมระเหย ทำให้ SFE เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันหอมระเหย

สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ ทักเลย!
บริษัท แอ๊กโซ เคมิคอลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด
โทร 02 346 9239 ต่อ 11 หรือ Line @axxochem
www.axxo.co.th หรือ sales_chem@axxo.co.th