การบำรุงรักษาเครื่องดูดควัน (Fume Hood) ในห้องปฏิบัติการ
เครื่องดูดควัน (Fume Hood) เป็นอุปกรณ์สำคัญในห้องปฏิบัติการที่ช่วยป้องกันอันตรายจากไอระเหยของสารเคมีและก๊าซพิษ โดยทำหน้าที่ดูดและระบายอากาศที่ปนเปื้อนออกจากพื้นที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ประสิทธิภาพของเครื่องอาจลดลง ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน
เพื่อให้เครื่องดูดควันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่จำเป็น บทความนี้จะกล่าวถึงแนวทางการบำรุงรักษาเครื่องดูดควันในห้องปฏิบัติการเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและยาวนาน
ความสำคัญของการบำรุงรักษาเครื่องดูดควัน
- ป้องกันการสะสมของสารเคมี ที่อาจเกิดการปนเปื้อนและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
- รักษาประสิทธิภาพการทำงานของระบบระบายอากาศ ให้สามารถดูดไอระเหยของสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ เช่น การรั่วไหลของสารพิษ หรือการสะสมของสารที่อาจติดไฟได้
- ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่
แนวทางการบำรุงรักษาเครื่องดูดควัน
การบำรุงรักษาประจำวัน
✅ ตรวจสอบการไหลเวียนของอากาศ – ตรวจสอบว่าเครื่องดูดควันทำงานได้ตามปกติ โดยสังเกตจากกระแสลมและความสามารถในการดูดไอระเหย
✅ ทำความสะอาดพื้นผิวภายในเครื่อง – เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม เพื่อลดการสะสมของสารเคมี
✅ ปิดบานเลื่อน (Sash) เมื่อต้องการลดการไหลเวียนของอากาศ – หากไม่ใช้งาน ควรปิดบานเลื่อนให้ต่ำที่สุดเพื่อลดการใช้พลังงานและช่วยรักษาคุณภาพอากาศ
การบำรุงรักษารายเดือน
🔹 ตรวจสอบความเร็วลมที่ช่องดูดอากาศ – วัดความเร็วลมที่ช่องดูดอากาศให้อยู่ในช่วง 0.4-0.6 เมตรต่อวินาที เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🔹 ตรวจสอบระบบไฟเตือนหรือระบบแจ้งเตือนความผิดปกติ – ตรวจสอบว่าเซ็นเซอร์และไฟเตือนทำงานได้ปกติ
🔹 ตรวจสอบรอยรั่วของโครงสร้างเครื่องดูดควัน – ตรวจสอบว่ามีรอยรั่วหรือความเสียหายที่อาจทำให้ประสิทธิภาพการดูดอากาศลดลง
การบำรุงรักษารายปี
🛠️ ตรวจสอบระบบระบายอากาศทั้งหมด – ตรวจสอบท่อระบายอากาศ พัดลมดูดอากาศ และวาล์วต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการอุดตันหรือการเสื่อมสภาพ
🛠️ เปลี่ยนตัวกรองอากาศ (ถ้ามี) – ในกรณีของเครื่องดูดควันแบบไม่มีท่อระบาย (Ductless Fume Hood) ควรเปลี่ยนแผ่นกรองตามกำหนด
🛠️ ทดสอบและสอบเทียบ (Calibration) อุปกรณ์ตรวจวัด – ตรวจสอบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็วลมและระบบแจ้งเตือน เพื่อให้มั่นใจว่าการอ่านค่าถูกต้อง
ข้อควรระวังในการบำรุงรักษาเครื่องดูดควัน
⚠️ ห้ามใช้เครื่องดูดควันเป็นที่เก็บสารเคมี – ควรเก็บสารเคมีในตู้เก็บสารเคมีที่ออกแบบมาเฉพาะ
⚠️ ห้ามปิดกั้นช่องดูดอากาศ – ไม่ควรวางอุปกรณ์หรือสารเคมีขวางช่องระบายอากาศ เพราะอาจลดประสิทธิภาพในการดูดไอระเหย
⚠️ อย่าซ่อมแซมเองหากไม่มีความเชี่ยวชาญ – หากพบปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า หรือระบบระบายอากาศ ควรแจ้งให้ผู้เชี่ยวชาญหรือฝ่ายวิศวกรรมดำเนินการตรวจสอบ
สรุป
การบำรุงรักษาเครื่องดูดควัน (Fume Hood) อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ห้องปฏิบัติการปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากสารเคมี และช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบระบบไหลเวียนอากาศ ทำความสะอาดอุปกรณ์ และเปลี่ยนแผ่นกรองตามระยะเวลาที่กำหนดเป็นแนวทางที่ช่วยให้เครื่องดูดควันทำงานได้ดีและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
✅ ตรวจสอบสม่ำเสมอ
✅ ทำความสะอาดเป็นประจำ
✅ ปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัย
💡 ดูแลเครื่องดูดควันให้พร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในห้องปฏิบัติการ! 🔬👨🔬
สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ ทักเลย!
บริษัท แอ๊กโซ เคมิคอลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด
โทร 02 346 9239 ต่อ 11 หรือ Line @axxochem
www.axxo.co.th หรือ sales_chem@axxo.co.th